Wat Ratchabophit
The temple’s architecture strikes the eye the first moment you enter its compound. The colourful door iss carved in the likeness of a European soldier. On the outside, the ordination hall looks traditional Thai style.
Wat Ratchabophit Sathit Maha Simaram is a Class 1 royal temple built during the reign of King Rama V and renovated during the reign of King Rama VII. It is the only temple from the Rattanakosin period dedicated to these two kings of the Chakri Dynasty. It was also the last temple built in accordance with the old tradition of dedicating the construction to a king.
The name of this temple was taken from the eight Maha Semas, huge boundary stones carved with Dhammachakra (wheel of law) pattern carved on. So the name means ‘the temple built by a king, in which Maha Semas have been erected’.
The name of this temple was taken from the eight Maha Semas, huge boundary stones carved with Dhammachakra (wheel of law) pattern carved on. So the name means ‘the temple built by a king, in which Maha Semas have been erected’.
The pagoda and shrine room at the back of the chapel are decorated with gorgeous, antique Benjarong ceramic ware, adding to the outstanding character of Wat Ratchabophit.
H.M. King Maha Vajiralongkorn Phra Vajiraklaochaoyuhua.
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯถวายผ้าพระกฐินวัดราชบพิธฯ
ทรงแย้มพระสรวลโบกพระหัตถ์ทักทายพสกนิกร
วันพฤหัสบดี ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561, 19.10 น.
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีทรงชบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ปี 2561 ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เป็นวันแรกเมื่อเวลา 16.22น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ โดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังหน้าพระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม จากนั้นเสด็จฯ ไปยังพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงวางพุ่มดอกไม้ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ และ ทรงกราบ ต่อจากนั้น พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงวางพุ่มดอกไม้ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ ทรงกราบ และ เสด็จเข้าพระอุโบสถ ทั้งนี้ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงยืนเฝ้าฯ หน้าพระเก้าอี้
ต่อจากนั้นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับผ้าไตรจากเจ้าพนักงานศุภรัต ทรงวางผ้าไตรเหนือพานแว่นฟ้าซึ่งตั้งอยู่หน้าอาสน์สงฆ์ใกล้เจ้าอาวาส ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธอังคีรสประธานพระอุโบสถ แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมราชสรีรางคาร รัชกาลที่ 7 กับพระราชสรีรางคารสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ 7 และพระบรมราชสรีรางคาร รัชกาลที่ 9 ทรงกราบ ทรงหยิบผ้าห่มสำหรับพระประธานที่วางอยู่บนหลังผ้าไตร พระราชทานเจ้าพนักงานภูษามาลา แล้วทรงยืน ณ ที่นั้น จากนั้น เจ้าหน้าที่กรมการศาสนากราบบังคมทูลรายงานจำนวนพระสงฆ์ จบแล้ว ทรงหยิบผ้าไตรที่พานแว่นฟ้านั้นพาดระหว่างพระกร แล้วประนมพระหัตถ์ ผินพระพักตร์สู่พระประธาน ทรงว่า "นะโม ตัสสะ ฯ" จบ 3 หนแล้ว ผินพระพักตร์สู่ที่ชุมนุมสงฆ์ กล่าวคำถวายผ้าพระกฐิน จากนั้น ทรงวางผ้าไตรไว้บนพานแว่นฟ้าที่เดิม ทรงประเคนผ้าไตรและเทียนปาฏิโมกข์แด่พระสงฆ์รูปที่ 2 ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าฯ ประทับพระราชอาสน์ เมื่อพระสงฆ์ทำพิธีกฐินกรรมแล้ว เสด็จฯ ไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายสักการะพระอัฐิสมเด็จพระสังฆราช (วาสนมหาเถระ) และ ทรงทอดผ้าไตร 10 ไตรบนพระภูษาโยงที่อาสน์สงฆ์ ประทับพระราชอาสน์ (พระสงฆ์ 10 รูปสดับปกรณ์)
เมื่อ พระสงฆ์ที่สดับปกรณ์และพระสงฆ์ผู้ครองผ้าพระกฐินออกไปครองผ้าพระกฐินเสร็จ กลับมานั่งยังอาสน์สงฆ์พร้อมแล้วเสด็จฯ ไปถวายเครื่องบริวารพระกฐินแด่พระสงฆ์ผู้ครองผ้าพระกฐิน ประทับพระราชอาสน์ ทรงหลั่งทักษิโณทก (พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก) กรรมการวัดกราบบังคมทูลเบิกผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงินสมทบทุนพระจุลจอมเกล้าสำหรับบูรณะพระอาราม เข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานของที่ระลึก จำนวน 100 คน จากนั้น เสด็จฯ ไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ ทรงลาพระสงฆ์ ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าฯ เสด็จออกจากพระอุโบสถ แล้วเสด็จฯ ไปตามพระระเบียงพระอุโบสถ เข้าพระวิหารทิศ (ด้านทิศตะวันออก) ทรงวางพวงมาลัยแล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายสักการะพระสรีรางคาร สมเด็จพระสังฆราช (วาสนมหาเถระ) พระราชอุปัธยาจารย์ในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงกราบ จากนั้น เสด็จเข้าพระเจดีย์ หลังพระอุโบสถ (ด้านทิศใต้) ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิมกำพูฉัตร ทรงถือสายสูตรยกนพปฎลมหาเศวตฉัตรขึ้นเหนือคูหาพระเจดีย์ (ขณะนี้พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา ชาวพนักงานลั่นฆ้องชัย ประโคมสังข์ แตร ดุริยางค์) ทรงวางพวงมาลัยแล้วทรงจุดธูปเทียนท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธรูปนาคปรกศิลาโบราณ ทรงกราบ จากนั้น เสด็จออกจากพระเจดีย์ (ด้านทิศใต้) เสด็จฯไปทอดพระเนตรภาพแสดงความคืบหน้าในการจัดสร้างพระราชประวัติพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วยกระเบื้องโมเสก ตามพระราชอัธยาศัย แล้วเสด็จฯไปยังวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ซึ่งเป็นวัดที่ 2
ต่อมา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ โดยรถยนต์พระที่นั่ง จากวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ไปยังวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม จากนั้นเสด็จเข้าพระอุโบสถ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงยืนเฝ้าฯ หน้าพระเก้าอี้ การนี้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับผ้าไตรจากเจ้าพนักงานศุภรัต ทรงวางผ้าไตรเหนือพานแว่นฟ้าซึ่งตั้งอยู่หน้าอาสน์สงฆ์ใกล้เจ้าอาวาส ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธเทวปฏิมากรประธานพระอุโบสถ แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมราชสรีรางคาร รัชกาลที่ 1 และทรงกราบ จากนั้น ทรงหยิบผ้าห่มสำหรับพระประธานที่วางอยู่บนหลังผ้าไตร พระราชทานเจ้าพนักงานภูษามาลา แล้วทรงยืน ณ ที่นั้น จากนั้น เจ้าหน้าที่กรมการศาสนากราบบังคมทูลรายงานจำนวนพระสงฆ์ จบแล้ว ทรงหยิบผ้าไตรที่พานแว่นฟ้านั้นพาดระหว่างพระกร แล้วประนมพระหัตถ์ ผินพระพักตร์สู่พระประธาน ทรงว่า "นะโม ตัสสะ ฯ" จบ 3 หนแล้ว ผินพระพักตร์สู่ที่ชุมนุมสงฆ์ กล่าวคำถวายผ้าพระกฐิน ทรงวางผ้าไตรไว้บนพานแว่นฟ้าที่เดิม แล้วทรงประเคนผ้าไตรและเทียนปาฏิโมกข์แด่พระสงฆ์รูปที่ 2 จากนั้น ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าฯ ประทับพระราชอาสน์ เมื่อพระสงฆ์ทำพิธีกฐินกรรมแล้ว เสด็จฯ ไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายสักการะพระอัฐิ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ซึ่งประดิษฐานที่หน้าโต๊ะหมู่พระประธาน
ต่อจากนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงทอดผ้าไตร 10 ไตรบนพระภูษาโยงที่อาสน์สงฆ์ ประทับพระราชอาสน์ (พระสงฆ์ 10 รูปสดับปกรณ์) จากนั้นพระสงฆ์ที่สดับปกรณ์และพระสงฆ์ผู้ครองผ้าพระกฐินออกไปครองผ้าพระกฐินเสร็จ กลับมานั่งยังอาสน์สงฆ์พร้อมแล้ว เสด็จฯ ไปถวายเครื่องบริวารพระกฐินแด่พระสงฆ์ผู้ครองผ้าพระกฐิน ประทับพระราชอาสน์ ทรงหลั่งทักษิโณทก (พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก) แล้วเสด็จ ฯ ไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ ทรงลาพระสงฆ์ ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าฯ เสด็จออกจากพระอุโบสถ ไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง และเสด็จพระราชดำเนินกลับ
Somdet Phra Maha Muniwong, abbot of Wat Ratchabophit, the 20th Supreme Patriarch of Thailand.
วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ไปชมกันให้ได้นะคะ
ภายในพระเจดีย์ ที่ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ซึ่งปกติจะไม่เปิดให้ชมภายใน แต่ในช่วง #สงกรานต์ ปีนี้ ได้เปิดให้ชมเป็นกรณีพิเศษ นอกจากที่ตรงกลางองค์พระเจดีย์จะมีชุกชีประดิษฐานพระพุทธรูปศิลาปางนาคปรกสมัยลพบุรี 4 องค์แล้ว
เหนือพระพุทธรูปศิลาปางนาคปรก ยังมี “นพปฎลมหาเศวตฉัตร” องค์ที่เคยถวายกางกั้นพระบรมโกศ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ขึ้นถวายกางกั้นเป็นพุทธบูชาพระพุทธรูปนาคปรก ประธานพระเจดีย์
Jaroensook Limbanchongkit Pone
April 15, 2019 at 11:11 PM
ภายในพระเจดีย์ ที่ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ซึ่งปกติจะไม่เปิดให้ชมภายใน แต่ในช่วง #สงกรานต์ ปีนี้ ได้เปิดให้ชมเป็นกรณีพิเศษ นอกจากที่ตรงกลางองค์พระเจดีย์จะมีชุกชีประดิษฐานพระพุทธรูปศิลาปางนาคปรกสมัยลพบุรี 4 องค์แล้ว
เหนือพระพุทธรูปศิลาปางนาคปรก ยังมี “นพปฎลมหาเศวตฉัตร” องค์ที่เคยถวายกางกั้นพระบรมโกศ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ขึ้นถวายกางกั้นเป็นพุทธบูชาพระพุทธรูปนาคปรก ประธานพระเจดีย์
(ข้างล่างนี้เป็นข่าวจาก แนวหน้าออนไลน์ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2561)
1 พ.ย.61 เวลา 16.24 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินพุทธศักราช 2561 ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงวางพุ่มดอกไม้ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงกราบ แล้วเสด็จเข้าพระอุโบสถ ทรงวางผ้าไตรเหนือพานแว่นฟ้าซึ่งตั้งอยู่หน้าอาสน์สงฆ์ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธอังคีรสประธานพระอุโบสถ แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมราชสรีรางคาร พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว กับพระสรีรางคารสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ 7 และพระบรมราชสรีรางคาร พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงกราบ จากนั้น ทรงหยิบผ้าไตรที่พานแว่นฟ้าพาดระหว่างพระกร ทรงกล่าวคำถวายผ้าพระกฐิน ทรงวางผ้าไตรไว้บนพานแว่นฟ้าที่เดิม ทรงประเคนผ้าไตรและเทียนปาฏิโมกข์แด่พระสงฆ์
เมื่อพระสงฆ์ทำพิธีกฐินกรรมแล้ว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย ถวายสักการะพระอัฐิ สมเด็จพระสังฆราช (วาสนมหาเถระ) ทรงทอดผ้าไตร 10 ไตรที่อาสน์สงฆ์ พระสงฆ์ 10 รูป สดับปกรณ์ พระสงฆ์ที่สดับปกรณ์และพระสงฆ์ผู้ครองผ้าพระกฐินออกไปครองผ้าพระกฐิน เสร็จ กลับมานั่งยังอาสน์สงฆ์พร้อมแล้ว ทรงถวายเครื่องบริวารพระกฐินแด่พระสงฆ์ผู้ครองผ้าพระกฐิน ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก
จากนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชวโรกาสให้ ผู้บริจาคเงินสมทบทุนพระจุลจอมเกล้า สำหรับบูรณะพระอาราม เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานของที่ระลึก เสร็จแล้ว ทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ ทรงลาพระสงฆ์ ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท แล้วเสด็จออกจากพระอุโบสถ เสด็จพระราชดำเนินไปตามพระระเบียงพระอุโบสถ เข้าพระวิหารด้านทิศตะวันออก ทรงวางพวงมาลัยแล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายสักการะพระสรีรางคารสมเด็จพระสังฆราช (วาสนมหาเถระ) พระราชอุปัธยาจารย์ในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงกราบ
จากนั้นเสด็จเข้าพระเจดีย์หลังพระอุโบสถด้านทิศใต้ ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิมกำพูฉัตร ทรงถือสายสูตรยกนพปฎลมหาเศวตฉัตรขึ้นเหนือคูหาพระเจดีย์ ทรงวางพวงมาลัยแล้วทรงจุดธูปเทียนท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธรูปนาคปรกศิลาโบราณ ทรงกราบ
จากนั้น เสด็จออกจากพระเจดีย์ด้านทิศใต้ เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรภาพแสดงความคืบหน้าในการจัดสร้างพระราชประวัติพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วยกระเบื้องโมเสก
Wat Ratchabophit Sathit Maha Simaram
Cr. หนังสือพิมพ์ แนวหน้า
Cr. Noi Art.