Sunday, September 16, 2018

Wat Ban Den Maethang ChiangMai วัดบ้านเด่น อ. แม่แตง เชียงใหม่










The Wat Ban Den located North of the city is one of Chiang Mai’s most remarkable temples. It is also one of the largest temple complexes in Chiang Mai province. The complex contains a large number of structures including an ordination hall, a viharn, a meditation hall, the kuti or monks living quarters, a drum hall and several other buildings.

Although the structures of the Wat are relatively new, they are built in traditional architectural style.

When the Wat Ban Den got a new abbot in 1988 the temple was in poor condition. The new abbot named Kru Ba Tuang has managed to raise huge sums of money, donated by local people and Buddhists from across the country. Abbot Kru Ba Tuang has completely renovated the Wat Ban Den and added a number of impressive structures.

The wooden viharn and other structures
One of the more imposing structures of the Wat Ban Den is a very large Lanna style teak wood viharn with a three tiered roof. The viharn is an attractive building with its blue roof and golden barge boards, decorated with intricate wood carvings.

A number of very ornately decorated all wooden structures with a blue roof and golden chofah decorating the roof ends, some consisting of multiple floors are set on a white concrete platform. Several buildings contain detailed wood carvings in traditional style showing various animals and mythological creatures.

Many of the Wat’s structures are guarded by large mythical Naga serpents on each side of the stairs. All over the temple grounds are large white lion figures called Singha in Thai, acting as guardians.



»» The White Temple »»
The 12 chedis of the Zodiac animal signs
The temple complex holds 12 chedis or pagodas. According to ancient local belief when people die their spirit will stay in the chedi of their Zodiac animal sign. During their lifetime, everyone should make a pilgrimage to the temple of his Zodiac sign. Every Zodiac animal sign has an official temple in Thailand. Since some of these temples are far from Chiang Mai, abbot Kru Ba Tuang decided to build 12 pagodas in the Wat Ban Den, each one representing one of the Zodiac signs.

Although the temple complex is relatively new, it has already become an important place of worship for local people and Buddhists from all over Thailand.

Recently, during the celebration of Kru Ba Tuang’s birthday thousands of people came to the temple grounds and donated 39 “money trees” each containing 100,000 Thai Baht for the abbot’s 39th birthday. The Wat Ban Den is set in the beautiful rural area North of Chiang Mai city.

Naga snake at Wat Ban Den
Naga snake guarding temple
Ornate temple building at Wat Ban Den Chiang Mai
Ornate temple building
How to get to the Wat Ban Den
The Wat Ban Den is located in Inthakin village in Mae Taeng district some 45 kilometers North of Chiang Mai city.

The most comfortable way to get there is by taxi. Since it might be difficult to find a taxi at the Wat Ban Den for the way back to Chiang Mai, it is best to book a return trip. Most hotels in Chiang Mai will be able to book a taxi for you. Agree on the price before setting off.

Entrance fee & opening hours
The Wat Ban Den is open daily from 6 am until 5 pm. Admission is free. Donations for the upkeep of the temple are highly appreciated.


                                Thank you : Renown Travel

























ครูบาเจ้าเทือง นาถสีโล :  ท่านเจ้าอาวาส












16 กุมภาพันธ์ 2565



































                                             ครูบาเทือง นาทะสีโล เจ้าอาวาส





















                                     Wat Ban Den map.








Friday, September 14, 2018

หอศิลป์ความสงบ :Surasit Saokong & Sriwanna Saokong




อาจารย์สุรสิทธิ์ เสาว์คง 

Surasit Saokong 






My paintings of the interiors and exteriors of temples are creative works of art which attempt to convey an atmostphere of serenity. I tend to use warm, dark rich colors which contribute to the feeling of peace. The edges of forms which appear in my work are generally softened so as not to create an unwanted sense of movement.This is why I choose candles, lamps and lanterns as my chief sources of light. This light is a central focus of my paintings and represents the wisdom that can dispel darkness. It is a symbol of purity and insight.








                                                                  Sulak Sivaraksa



Sulak Sivaraksa (Thai: สุลักษณ์ ศิวรักษ์; RTGS:  born March 27, 1932 in Siam) is a visiting professor writer, the founder of the Thai NGO and director of the Thai NGO"Sathirakoses-Nagapradeepa Foundation", named after two authorities on Thai culture, Sathirakoses (Phya Anuman Rajadhon) and Nagapradeepa (Phra Saraprasoet). He initiated a number of social, humanitarian, ecological and spiritual movements and organizations in Thailand, such as the College SEM (Spirit in Education Movement).

Sulak Sivaraksa is known in the West as one of the fathers of the International Network of Engaged Buddhists (INEB), which was established in 1989 with leading Buddhists, including the 14th Dalai Lama, the Vietnamese monk and peace-activist Thich Nhat Hanh, and the Theravada Bhikkhu Maha Ghosananda, as its patrons.

When Sulak Sivaraksa was awarded the Right Livelihood Award in 1995, he became known to a wider public in Europe and the US. Sulak was chair of the Asian Cultural Forum on Development and has been a visiting professor at UC Berkeley, the University of Hawaii, and Cornell.








Hongjorn Sanehngamjaroen


หอศิลป์ความสงบ

126/7 ม.2 ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่, 50300
 Chiang Mai, Thailand

เยือนอาณาจักรศิลปิน 
วันนี้มาถึง หอศิลป์ความสงบ ของอาจารย์สุรสิทธิ์ เสาว์คง และอาจารย์ศรีวรรณา เสาว์คง อยู่อาณาบริเวณใกล้วัดเจ็ดยอด เมืองเชียงใหม่
ชีวิตและผลงานของอาจารย์ทั้งสองเป็นเนื้อเดียวกันจริงๆ อาจารย์สุรสิทธิ์ จิตรกรรมของท่านออกไปในทางสงบเย็นมีแสงประทีปภายในโบสถ์ส่องทางให้เกิดปัญญาต่อจิตวิญญาณ ส่วนจิตรกรรมของอาจารย์ศรีวรรณา มุ่งไปทางธรรมชาติป่าเขาลำธารและดอกไม้ ผลงานของท่านทั้งสองสื่อให้จิตน้อมนำสู่หนทางแห่งพุทธะ
อาจารย์สุรสิทธิ์ และอาจารย์ศรีวรรณา ท่านเกษียณมาหลายปีแล้ว แต่ปัจจุบันท่านยังอุทิศตนสอนนิสิตกลุ่มเอตธรรมศิลป์ สาขาวิชาพุทธศิลปกรรม มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่ นิสิตที่มาเรียน มีทั้งพระและฆราวาส สอนมา 6รุ่น มีนิทรรศการแสดงผลงานถึง 6 ครั้ง ผลงานของนิสิตอยู่ในขั้นมืออาชีพเลยที่เดียว ถือเป็นปูชณียบุคลแห่งวงการศิลปะแท้จริง ก็หวังว่าคณะสำนักศิลปวัฒนธรรมแห่งชาติ จะได้เชิดชูเกียรติท่านเป็นศิลปินแห่งชาติ อันจะยังประโยชน์ต่อสถาบันศิลปะของชาติ
.............................
- เราต้องเป็นผู้ค้นคว้า หมั่นศึกษา และสร้างสรรค์ด้วยตนเอง
- ความรู้ เกิดจากการได้ถ่ายทอดการสอนศิลปะ

ครูให้เด็ก เด็กให้ครู
สุรสิทธิ์ เสาว์คง

ถ่ายภาพ : อั๋น พงศ์สวัสดิ์ ศิลป์ฐิติยานนท์




อ.สุรสิทธิ์ เสาว์คง
เกิด :
13 พฤศจิกายน 2492
ที่อยู่ :
126/7 ซ.โพธาราม 2 อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50300
โทร :
053-217-656, 08-1885-8454
เว็บไซต์ :
www.rama9art.org/surasit
การศึกษา :
- ศิลปบัณฑิต (จิตรกรรม) มหาวิทยาลัยศิลปากร
นิทรรศการเดี่ยว :
2544 - นิทรรศการศิลปะร่วมสมัยของศิลปินล้านนา ณ ศูนย์การค้า สุริวงศ์ พลาซ่า
2545 - นิทรรศการศิลปะแสดงเดี่ยว ณ Jim Thomson กรุงเทพฯ
2546 - นิทรรศการศิลปะไทยร่วมสมัยเชิงจิตวิญญาณ ณ หอศิลป มหาวิทยาลัยศิลปากร
2547 - นิทรรสการศิลปะมหกรรมสีน้ำแห่งประเทศไทย ณ เดอะสีลมแกลเลอเรีย กรุงเทพฯ
2549 - นิทรรสการศิลปะไทย - กัมพูชา ที่ประเทศกัมพูชา
2550 - นิทรรศการศิลปะ ต๋ามฮีต โตยฮอย สล่า หอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
รางวัล/เกียรติยศ :
2524 - 2525 - ได้รับรางวัลเกียรตินิยมอันดับ 2 ประเภทจิตรกรรมในการประกวดศิลปกรรมแห่งชาติ ครั้งที่ 27, 28
- ได้รับรางวัลชนะเลิศ ในการประกวดศิลปกรรมร่วมสมัยของธนาคารกสิกรไทย ครั้งที่ 3, 4
2525 - ได้รับรางวัลชนะเลิศ ในการประกวดศิลปกรรมของธนาคารแห่งประเทศไทย กรงเทพฯ
2526-2527 - ได้รับรางวัลที่ 3 และรางวัลที่ 1 ในการประกวดจิตรกรรมบัวหลวง ครั้งที่ 7, 8 ของธนาคารกรุงเทพฯ
2530 - ได้รับรางวัลที่ 2 ในการประกวดศิลปกรรม เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ฉลองครบรอบ 60 พรรษาของธนาคารกสิกรไทย
2535 - ได้รางวัลพิเศษในการประกวดงานจิตรกรรม เทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระชนมพรรษา 60 พรรษา จัดโดย บมจ. ธนาคารกสิกรไทย






อ.ศรีวรรณา เสาว์คง Sriwanna Saokong
เกิด พ.ศ.2487 กรุงเทพฯ
การศึกษา ศบ. จิตรกรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร
ที่อยู่/ที่ทำงาน/โทรศัพท์ 126/7 บ้านแพะ ซอย 4 ถนนโพธาราม 2 ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50300

การแสดงผลงานครั้งสำคัญ
2547 - นิทรรศการมหกรรมศิลปะร่วมสมัยเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชนีนาถ 72 พรรษา “แผ่นดิน ภูเขา แม่น้ำ ทะเล และท้องฟ้า ณ หอศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ กรุงเทพฯ
- นิทรรศการผลงานผู้สอนศิลปะของวิทยาเขตภาคพายัพ ณ กองดี แกลเลอรี เชียงใหม่
- นิทรรศการศิลปะของสมาคมจิตรกรรมสีน้ำแห่งประเทศไทย ณ สีลมแกลเลอเรีย ถนนสีลม กรุงเทพฯ
2548, 2547, 2546, 2545 - นิทรรศการตาม “ฮีตโตยฮอย สล่าเมือง” ณ หองศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
2546 - นิทรรศการมหกรรมสีน้ำแห่งประเทศไทย ณ สีลม แกลเลอเรีย ถนนสีลม กรุงเทพฯ
2544 - นิทรรศการศิลป เจ้าพระเยา ของการเติบโต วิถีการพัฒนาสูความยั่งยืน
- นิทรรศการศิลป เจ้าพระยาแม่น้ำของแผ่นดิน ณ หอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่





































Hongjorn Sanehngamjaroen., Sulak Sivaraksa Visited Prasong Luemuang : Artgallery Lamphun






                      พิพิธภัณฑ์หอศิลป์ บ้านศิลปินประสงค์ ลือเมือง.






                          Hongjorn Sanehngamjaroen is an Artist , Sculpture , a singer 




Sulak Sivaraksa (Thai: สุลักษณ์ ศิวรักษ์; born March 27, 1932 in Siam) is a visiting professor, writer, the founder of the Thai NGO and director of the Thai NGO"Sathirakoses-Nagapradeepa Foundation", named after two authorities on Thai culture, Sathirakoses (Phya Anuman Rajadhon) and Nagapradeepa(Phra Saraprasoet). He initiated a number of social, humanitarian, ecological and spiritual movements and organizations in Thailand, such as the College SEM (Spirit in Education Movement).

Sulak Sivaraksa is known in the West as one of the fathers of the International Network of Engaged Buddhists (INEB), which was established in 1989 with leading Buddhists, including the 14th Dalai Lama, the Vietnamese monk and peace-activist Thich Nhat Hanh, and the Theravada Bhikkhu Maha Ghosananda, as its patrons.

When Sulak Sivaraksa was awarded the Right Livelihood Award in 1995, he became known to a wider public in Europe and the US. Sulak was chair of the Asian Cultural Forum on Development and has been a visiting professor at UC Berkeley, the University of Hawaii, and Cornell.







Prasong Luemuang :Artist 


Born : 1962, Lampoon, Thailand

Education : B.F.A.(Thai Art) Silpakorn University, Bangkok

Solo Exhibitions :

1988
: Tai Haripunchai, Bangkok
1989
: From Soil and Water, Rivercity, Bangkok
1990
: Moonlight in Tide, Goethe Institute, Bangkok
1991
: Writing from Village, British Council, Bangkok
: Naam Thip-Pla Thong, Silom Art Space, Bangkok
1992
: Variations on a Theme, The National Art Gallery, Bangkok
2008
Prasong Luemuang 2007, Number 1 Gallery, Bangkok

Group Exhibitions :

2008
Bare, Number 1 Gallery, Bangkok

Awards and Honours :

1987
: The 1st Prize, Gold Medal Award, Bualuang Art Exhibition, Bangkok
: The 2nd Prize, Silver Medal Award, The National Exhibition of Art, Bangkok
: Grand Prix, Contemporary Art Exhibition, Bangkok
: Honourable Mention Prize, The Art Exhibition by Petroleum Authority of Thailand, Bangkok
1988
: The 1 st Prize, Gold Medal Award, The National Exhibition of Art, Bangkok








































                                                  พิพิธภัณฑ์หอศิลป์ บ้านศิลปินประสงค์ ลือเมือง.
อำเภอเมือง  จังหวัด ลำพูน 


For Taxi 

พิพิธภัณฑ์หอศิลป์ บ้านศิลปินประสงค์ ลือเมือง
พันตาเกิน ซอย 5/1, 51000 Amphoe Muang Lamphun, Thailand




เยือนอาณาจักรศิลปิน ณ เมืองหริภุญชัย ( 1 )
การเดินทางที่เต็มไปด้วยความสุข ความงาม ความดี จากกัลยาณมิตร
เมื่อปรารมาจารย์ปราชญ์แห่งสยาม สัญจรมายังสำนักบู๊ตึ้งพันตาเกิน จอมยุทธ์ฤทธิ์มีดสั้น นามประสงค์ ลือเมืองให้การต้อนรับด้วยการชงชา ความอุ่นกรุ่นหอมจากรสชาเก่าแก่(ผู่เอ๋อร์) ทำให้บทสนทนามีรสชาติเข้มข้นยิ่งนัก 
ก่อนอำลา จอมยุทธ์ฤทธิ์มีดสั้น ได้มอบชาผู่เออร์แทนความหมายแห่งมิตรภาพอันยั่งยืน.
ขอบคุณอั๋น พงศ์สวัสดิ์ ช่วยถ่ายภาพและช่วยรับส่งถึงจุดหมายปลายทาง







       AJ.  Sulak Sivaraksa ,  Hongjorn Sanehngamjaroen

Temp Song